มิโด(Mido)เปิดตัวคอลเลคชั่นที่ชื่อว่า“บารอนเชลลี่ โครโนมีเทอร์ ซิลิคอน”

นาฬิกานอกจากจะเป็นเครื่องบอกเวลาและเครื่องประดับสวมใส่เสริมบุคลิกแล้ว ยังได้รับความนิยมในการเลือกซื้อเก็บไว้เพื่อเป็นของสะสมสำหรับผู้ที่มีความหลงใหลในเรือนเวลาที่เปี่ยมด้วยคุณภาพและมาตรฐานการผลิต พร้อมกับดีไซน์ที่มีความคลาสสิกเหนือกาลเวลา ล่าสุดแบรนด์เรือนเวลาหรูจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ “มิโด” (Mido) ได้เปิดตัวคอลเลคชั่นที่ชื่อว่า “บารอนเชลลี่ โครโนมีเทอร์ ซิลิคอน” (Baroncelli Chronometer Silicon) ที่มีเทคโนโลยีการผลิตอันทันสมัยและโดดเด่นด้วยดีไซน์ที่คงความคลาสสิกเอาไว้ได้อย่างลงตัว พร้อมแนะนำเคล็ดลับการเลือกนาฬิกาสำหรับนักสะสมมือใหม่

“มิโด” (Mido) แบรนด์นาฬิกาในเครือสวอทช์ กรุ๊ป (Swatch Group)ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี นับตั้งแต่ จอร์จ แชแรน (Georges Schaeren) เริ่มก่อตั้งบริษัท Mido G.Schaeren & Co. AG ขึ้นที่เมืองโซโลธูร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งแต่ ค.ศ.1934 ภายใต้ปรัชญาของการสร้างสรรค์แบรนด์ให้อยู่เหนือกาลเวลาด้วยแนวคิดการออกแบบที่ร่วมสมัย ผ่านการคัดเลือกวัสดุคุณภาพเยี่ยมที่มีความหรูหรา ทนทาน และยังคงไว้ซึ่งฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบถ้วน รวมถึงความเที่ยงตรงสูงซึ่งได้รับการรับรองจาก Contrôle Official Suisse des Chronomètres (Official Swiss Chronometer Testing Institute) หรือ COSC.

Image result for บารอนเชลลี่ โครโนมีเทอร์ ซิลิคอน

โดยคอลเลคชั่น “บารอนเชลลี่ โครโนมีเทอร์ ซิลิคอน” ได้รับแรงบันดาลใจมาจากอิทธิพลยุคบาโรก (Baroque) ในสไตล์นีโอคลาสสิก (Neoclassic) ด้วยสถาปัตยกรรมอย่าง Galleria Vittorio Emanuele II แห่งเมืองมิลาน ประเทศอิตาลีที่แสดงให้เห็นถึงความโดดเด่นในด้านการออกแบบ โดยแนวทางของการออกแบบมีจุดเริ่มต้นมาจากความประณีตและการเลือกใช้รูปทรงเลขาคณิตที่เป็นทรงกลม ทางแบรนด์จึงหยิบยกสถาปัตยกรรมอันหรูหราและเลือกใช้เส้นสายที่มีความโค้งมน มีความกลมกลืนต่อเนื่องกันมาช่วยทำให้เกิดความภูมิฐาน คลาสสิกเหนือกาลเวลา ด้วยการผสมผสานกันระหว่างแนวความคิดของการสร้างสรรค์นาฬิกาที่เน้นความคลาสสิก ผนวกกับการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ ก่อเกิดเป็นเรือนเวลา “บารอนเชลลี่ โครโนมีเทอร์ ซิลิคอน” ที่มีตัวเรือนทรงกลมผลิตจากสเตนเลสสตีลขัดเงา พร้อมการออกแบบให้มีความเพรียวบางเข้ากับสายหนังวัวแท้ปั๊มลายจระเข้สีน้ำตาล โดยตัวเรือนมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 มิลลิเมตร สีสเตนเลสสตีลตัดกับหน้าปัดสีแอนทราไซต์ (Anthracite) ที่มีแพทเทิร์นของลวดลายขัดแต่งแบบหยาบ ได้อย่างสวยงาม

Image result for บารอนเชลลี่ โครโนมีเทอร์ ซิลิคอน

พร้อมกับการเลือกใช้โทนสีโทนอบอุ่นด้วยการเคลือบ PVD สีโรสโกลด์บนหลักชั่วโมงและเข็มชั่วโมง-นาที ช่วยเพิ่มความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น โดยเข็มชั่วโมงและเข็มนาทีจะถูกขัดแต่งในแบบสองด้าน(Double-Side) ซึ่งด้านหนึ่งจะเป็นแบบขัดด้านและอีกด้านจะเป็นแบบไดมอนด์คัท (Diamond-Cut) เน้นความเงางามในตำแหน่ง 3 นาฬิกา บนหน้าปัดจะมีช่องแสดงวันที่ (Date) พร้อมครอบปิดทับด้วยกระจกผลิตจากแซฟไฟร์ (Sapphire) เคลือบสารกันแสงสะท้อนทั้ง 2 ด้าน นอกจากนี้ยังสามารถสัมผัสถึงความสง่างามของตัวนาฬิกาผ่านฝาหลังแบบใสที่มองเห็นกลไกระดับตัวท็อปของแบรนด์อย่าง Caliber 80 ที่ได้รับการติดตั้งใยลานนาฬิกา (Balance Spring) ซึ่งผลิตมาจากซิลิคอน (Silicon) ถือเป็นชิ้นส่วนที่สำคัญของกลไกที่ติดตั้งอยู่ในนาฬิการะดับหรู ด้วยคุณสมบัติที่ทนทานต่อสนามแม่เหล็กและจากการกระแทกแล้ว ใยลานที่ผลิตจากซิลิคอนยังช่วยในเรื่องการรักษามาตรฐานด้านความเที่ยงตรงเมื่อใช้งานในระยะยาวดีกว่าใยลานทั่วไปอีกด้วย นอกจากนี้กลไก Caliber 80 รุ่นนี้ยังสามารถขึ้นลานและสะสมพลังงานได้ในระดับสูงสุดถึง 80 ชั่วโมง พร้อมกับคุณสมบัติการกันน้ำที่ระดับ 30 เมตร

การเลือกดีไซน์ นักสะสมมือใหม่ควรจะเลือกเป็นนาฬิกาที่มีดีไซน์คลาสสิกและไทม์เลส เพราะไม่ว่าจะเก็บสะสมไว้นานเพียงใด ด้วยตัวดีไซน์นี้สามารถนำมาสวมใส่ได้ทุกยุคสมัย ซึ่งต่างจากนาฬิกาแฟชั่น ที่ไม่แนะนำให้เก็บสะสม เพราะสินค้าตามแฟชั่นเป็นสิ่งที่ไม่คงอยู่ถาวร และจะปรับเปลี่ยนไปตามช่วงกระแส

ปิดท้ายที่ การรับประกัน ถือเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับนักสะสม เพราะการรับประกันจากแบรนด์จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อได้เป็นอย่างดี โดยนาฬิกา “มิโด” (Mido) ทุกเรือนที่เป็นเครื่อง COSC จะได้รับการขยายเวลาการรับประกันเพิ่มอีก 1 ปี รวมระยะเวลารับประกันทั้งสิ้น 3 ปี

ร่วมเลือกเรือนเวลาหรูดีไซน์ล่าสุดในคอลเลคชั่น “บารอนเชลลี่ โครโนมีเทอร์ ซิลิคอน” จากแบรนด์ “มิโด”(Mido) ได้แล้ว