Huawei Watch GT2 ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ หลังจาก Huawei Mate 30 Pro เปิดตัวไม่นาน รูปลักษณ์หน้าตาของ Huawei Watch GT 2 สำหรับรูปร่างหน้าตา Huawei Watch GT2 ก็มีการแบ่งออกเป็น 2 รุ่นคือขนาด 46 มิลลิเมตร และ 42 มิลลิเมตร รองรับการสัมผัสที่หน้าจอ โดยรุ่น 46 มิลลิเมตร ออกแบบได้สวยงามและดู Classic ส่วนรุ่น 42 mm. จะดูทันสมัยกว่า พร้อมกับปุ่มกดยื่นออกมาที่ดูหน้าตาหล่อใช้ได้

ฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจ
สำหรับ Huawei Watch GT 2 ยังคงใช้ระบบปฏิบัติการของตัวเอง แต่ว่าเมื่อตัวเครื่องมีชิปประมวลผลใหม่ Kirin A1 ทำให้การทำงานดีขึ้น และชาร์จไฟครั้งเดียว สามารถใช้งานได้ 2 สัปดาห์ ในขนาด 46 มิลลิเมตร Apps ยังไม่มีโปรแกรมออกกำลังกายทั้งหมด 15 รายการและรวมถึงการวิ่งแบบคอร์ส มีทั้งหมด 13 รายการ และยังสามารถว่ายน้ำ เป็นต้น

ส่วนเซนเซอร์ต่างๆ ของ Huawei Watch GT 2 จะมีเซนเซอร์ครบครันไม่ว่าจะเป็น
- ระบบเซ็นเซอร์
- เซ็นเซอร์แบบ Accelerometer (เซ็นเซอร์ความเร่ง)
- เซ็นเซอร์แบบ Gyroscope (เซ็นเซอร์ไจโรสโคป)
- เซ็นเซอร์แบบ Geomagnetic (เซ็นเซอร์ตรวจวัดแม่เหล็ก)
- เซ็นเซอร์แบบ Optical heart rate (เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบออปติคัล)
- เซ็นเซอร์แบบ Ambient Light (เซ็นเซอร์วัดแสง)
- เซ็นเซอร์แบบ Air pressure (เซ็นเซอร์ความดันอากาศ)
- เซ็นเซอร์แบบ Capacitive
ส่วนการเชื่อมต่อรองรับทั้ง Bluetooth 5.1, GPS และ รองรับกับ Android 4.4 หรือ iOS 9.0 ขึ้นไปก็สามารถต่อเชื่อมกับ Application Huawei Health ในการเปิดใช้งานได้ทันที
สรุปหลังทดลองใช้งาน Huawei Watch GT 2 ในระยะเวลาสั้นๆ
หลังจากที่ได้ทดลองแล้วในรุ่นแรกถือว่าทำได้ดีอยู่แล้ว แต่รุ่น 2 เพิ่มความรวดเร็วในการทำงานมากขึ้นกว่าตัวเดิม จนเรียกว่าน่าใช้งานมากขึ้นกว่าเดิม ถือว่าเป็นอีกทางเลือกที่ต้องการ
สำหรับ Huawei Watch GT 2 มีให้เลือกทั้งหมด 6 รูปแบบได้แก่
- 46 mm. Sport Edition = 6,490 บาท (วางจำหน่ายแล้ว)
- 46 mm. Classic Edition = 6,990 บาท (วางจำหน่ายแล้ว)
- 46 mm. Elite Edition = 7,990 บาท (วางจำหน่ายเร็วๆ นี้)
- 42 mm. Sport Edition = 5,990 บาท (วางจำหน่ายเร็วๆ นี้)
- 42 mm. Classic Edition = 6,490 บาท (วางจำหน่ายเร็วๆ นี้)
- 42 mm. Eleglance Edition = 7,990 บาท (วางจำหน่ายเร็วๆ นี้)